ฮาแลนด์หรือว่านูนเญซ

ฮาแลนด์หรือว่านูนเญซ ใครจะคว้าดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกซีซั่นหน้า

ฮาแลนด์หรือว่านูนเญซ กลายเป็นคู่แข่งอันดับหนึ่งใน พรีเมียร์ลีก ยุคนี้ของกันและกันไปแล้วสำหรับ แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล

ฮาแลนด์หรือว่านูนเญซ

นอกจากจะชิงดีชิงเด่นในเรื่องการไล่ล่าโทรฟี่แล้ว เรือใบสีฟ้า กับ หงส์แดง ก็ไม่ยอมน้อยหน้ากันในเรื่องการเสริมทัพอีกต่างหากอย่างในซัมเมอร์นี้ หลังจาก เปีป กวาร์ดิโอล่า ฉุด เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ดาวยิงทีมชาติ นอรเวย์ ของสโมสร โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาร่วมสังกัด เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็แก้ลำด้วยการทาบคว้า ดาร์วิน นูนเญซ หัวหอกทีมชาติ อุรุกวัย ของสโมสร เบนฟิก้า ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับสังเวียนแข้ง แอนฟิลด์ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ต่อเรื่องค่าตัว ต้องยอมรับว่า แมนฯ ซิตี้ คว้า ฮาแลนด์ มาเข้ารังได้อย่างน่าอิจฉาเนื่องจากนักเตะทำเงื่อนไขค่าฉีกสัญญากับ เสือเหลือง เอาไว้ จึงเป็นการเปิดช่องให้เขาย้ายสังกัดได้โดยง่ายในราคาที่ย่อมเยาเกินจริง

ต่างไปจาก ลิเวอร์พูล ซึ่งต้องจ่ายเงินเป็นสถิติของสโมสรฉุด นูนเญซ มารับบทหัวหอก และเป็นอีกครั้งที่ เบนฟิก้า สามารถขายนักเตะได้ราคาอย่างงาม

อย่างไรก็ดี เมื่อมองไปถึงอายุของนักเตะ ฮาแลนด์ กับ นูนเญซ จัดเป็นคู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อเป็นที่สุดเนื่องจากรายแรกมีอายุ 21 ปี ขณะที่รายหลังเกิดก่อนแค่ปีเดียวเท่านั้น

ขณะเดียวกัน สองหัวหอกจะย้ายมาสัมผัสกับฟุตบอล พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกทั้งคู่ด้วย หากแต่ ฮาแลนด์ จะหวนคืนมาตุภูมิเนื่องจากเขาเกิดที่เมือง ลีดส์ ช่วงที่ อัล์ฟ อิงเก้ ฮาแลนด์ คุณพ่อของเขาลงบู๊ให้กับทีม ยูงทอง ก่อนย้ายไปร่วมทีม เรือใบสีฟ้า

อย่างไรก็ดี หากจะวัดกันที่ความคมด้วยการคิดค่าเฉลี่ยการยิงประตูต่อจำนวนนาทีที่ได้อยู่ในสนาม นูนเญซ รั้งอันดับหนึ่งจากทั้งหกลีกใหญ่ของยุโรปเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ขณะที่ ฮาแลนด์ อยู่ในอันดับสาม

จากซีซั่น 2021/22 นูนเญซ สร้างผลงานสอยตาข่ายให้ เบนฟิก้า ได้ทุกๆประตูในเวลา 76 นาที ขณะที่ ฮาแลนด์ ทำได้ทุกๆประตูในเวลา 87 นาที เป็นรอง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ศูนย์หน้าวัย 33 ปีที่คว้าอันดับสอง

ฉะนั้นแล้ว จึงบอกได้เลยว่า พรีเมียร์ลีก ไม่เคยขาดแคลนยอดกองหน้าในทุกยุคทุกสมัย อย่างก่อนหน้านี้ลีกเมืองผู้ดีก็เป็นที่รวมตัวกันของสุดยอดดาวซัลโวทั้ง เจอร์เก้น คลินส์มันน์ , จานฟรังโก้ โซล่า , ฟาบริซิโอ ราวาเนลลี่  ที่ย้ายมาสร้างสีสันให้กับลีกอิงลิช

กระทั่งยุคนี้ ฮาแลนด์ กับ นูนเญซ กลายมาเป็นศูนย์หน้าที่ถูกพูดถึงมากที่สุด แถมทั้งคู่โคจรมาชิงความเป็นหนึ่งกันในดินแดนอังกฤษอย่างถูกที่ถูกเวลาพอดีซะด้วย

แต่สำหรับคำถามที่ว่า ฮาแลนด์ หรือ นูนเญซ ที่จะคว้าตำแหน่งดาวซัลโวของ พรีเมียร์ลีก ในซีซั่นหน้า บอกได้เลยว่าน่าจะเป็นเรื่องยากเนื่องจากสถิติบ่งชี้ว่าไม่มีนักเตะใหม่หน้าไหนคว้ารองเท้าทองคำไปครอบครองได้ทันทีตั้งแต่ซีซั่นแรกที่พวกเขาย้ายมาค้าเกือกในเมืองผู้ดี

แน่นอนว่าดาวยิงหลายรายย้ายมาสอยตาข่ายได้เป็นเข่งตั้งแต่ซีซั่นแรกของพวกเขาใน พรีเมียร์ลีก แต่มันยังไม่มากพอที่จะทำให้มีใครเลยได้รางวัลดาวซัลโวสูงสุด

ในจำนวนนี้ประกอบไปด้วย เฟร์นานโด ตอร์เรส , เซร์คิโอ อเกวโร่ และ รุด ฟาน นิสเตลรอย ซึ่งโชคร้ายที่มีพ่อค้าแข้งรายอื่นระเบิดตาข่ายได้มากกว่า

อย่างในซีซั่น 2007/08 ตอร์เรส  เสียท่าให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งพังประตูได้ 31 เม็ด

จากนั้นในซีซั่น 2011/12 อเกวโร่ ก็โดน ฟาน นิสเตลรอย สร้างผลงานได้ดีกว่า หลังจากซีซั่น 2001/02 กองหน้าดัตช์พลาดท่าให้กับ เธียร์รี่ อองรี แบบเฉียดฉิว

เท่านั้นไม่พอ อดีตกองหน้า อาร์เซน่อล ยังสร้างชื่อคว้ารางวัลรองเท้าทองคำของ พรีเมียร์ลีก ได้อีกสามปีซ้อนด้วยในซีซั่น 2003/04, 2004,05 และ 2005/06 โดยซีซั่น 2002/03 สตาร์เฟรนช์แมนเสียท่าให้ ฟาน นิสเตลรอย ที่ซิวรางวัลไปครองด้วยประตูเดียวเท่านั้น

กลับมาว่ากันถึงคู่ชิงดีชิงเด่นระหว่าง ฮาแลนด์ กับ นูนเญซ กันต่ออีกนิดเนื่องจากมีการวิเคราะห์อย่างน่าสนใจจากกูรูบางรายซึ่งมั่นใจว่าดาวยิงทีม แมนฯ ซิตี้ จะจบซีซั่นโดยมีผลงานการคลำเป้าที่เหนือกว่าสตาร์ละติน

เหตุผลไม่มีอะไรซับซ้อนเลยเนื่องจาก กวาร์ดิโอล่า มองหากองหน้าตัวเป้ามานานแล้ว และในเมื่อสมหวัง ฮาแลนด์ จึงย่อมถูกส่งลงสนามอย่างต่อเนื่อง

ต่างไปจาก นูนเญซ ซึ่งมีการเพ่งเล็งว่าเขาจะได้ลงเล่นเป็นบางเกมเนื่องจาก คล็อปป์ นิยมโรเตชั่นหัวหอกด้วยเหตุที่ หงส์แดง มีนักเตะในแผงรุกเป็นเข่ง และต้องสลับกันเล่นอย่างที่เห็นไม่ว่าจะเป็น ดีโอโก้ โชต้า , ทาคูมิ มินามิโนะ ,โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ หลุยส์ ดิอาซ ขณะที่ ซาดิโอ มาเน่ กับ โม ซาลาห์ จะเป็นตัวยืนพื้น แถมอย่าลืมว่า หงส์แดง เพิ่งโละ ดิว็อค โอริกี้ ออกจากทีมได้หมาดๆ

และที่สำคัญ ซาลาห์ ยังถือเป็นความหวังสูงสุดของ ลิเวอร์พูล เนื่องจากเขาเป็นนักเตะคนเดียวที่ตะบันได้มากกว่า 32 ประตูในศึก พรีเมียร์ลีก ยุคที่มีเกมให้ลงเล่น 38 นัดต่อซีซั่น แม้ก่อนหน้านี้ในช่วงเป็นขุนพลทีม เชลซี สองซีซั่น ดาวยิงอียิปต์จะซัดได้รวมกันใน พรีเมียร์ลีก แค่สองเม็ดโดยทั้งสองเม็ดนี้เกิดขึ้นในซีซั่น 2013/14 อันเป็นปีที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กองกลาง ลิเวอร์พูล ลื่นล้มจนส่งผลให้ แมนฯ ซิตี้ ซิวแชมป์ลีกไปครอง

สรุปแล้วผ่านมาจนถึงวันนี้ยังไม่มีนักเตะต่างชาติคนไหนเลยที่คว้ารางวัลรองเท้าทองคำไปครอบครองได้ตั้งแต่ซีซั่นแรกที่พวกเขาย้ายมาลิ้มรสชาติฟุตบอล พรีเมียร์ลีก

ด้วยเหตุนี้ มันจึงน่าสนใจอย่างยิ่งว่า ฮาแลนด์ หรือว่า นูนเญซ จะทำลายอาถรรพ์ที่ว่าลงได้หรือไม่ อีกทั้งอย่าลืมว่า แฮร์รี่ เคน ,โรนัลโด้ รวมทั้ง ซน ฮึง มิน และ ซาลาห์ สองดาวซัลโวร่วมเมื่อซีซั่นก่อนคงไม่ยอมให้ผู้มาใหม่มาลูบคมพวกเขาได้ง่ายๆเช่นกัน

 

 

 

 

 

 

 
ติดตามข่าวสารดีๆได้ที่นี่ : Slot Joker ขั้นต่ำ 1 บาท

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : SiamSport

By erapong